เมนู

อรรถกถาราสิยสูตรที่ 12



ในราสิยสูตรที่ 12 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้
บทว่า ราสิโย ความว่า พระธรรมสังคาหกเถระได้กำหนดชื่อ
นายบ้านว่า ราสิยะ อย่างนี้ เพราะเขาถามปัญหาเป็นกลุ่มก้อน บทว่า
ตปสฺสึ ได้แก่อาศัยตบะ. บทว่า ลูขชีวึ แปลว่า มีความเป็นอยู่ปอน ๆ.
บทว่า อนฺตา ได้แก่ส่วน. บทว่า คาโม ได้แก่เป็นของชาวบ้าน
ปาฐะว่า คมฺโม ดังนี้ก็มี. ความว่า เป็นเรื่องของชาวบ้าน บทว่า.
อตฺตกิลมถานุโยโค แปลว่า การประกอบตนให้ลำบากเปล่า อธิบายว่า
ทำความเดือดร้อนแก่ร่างกาย. ถามว่า ก็ในที่นี้ เหตุไรจึงทรงถือเอากาม-
สุขัลลิกานุโยค เหตุไรจึงทรงถือเอาอัตตกิลมถานุโยค เหตุไรจึงทรงถือเอา
มัชฌิมาปฏิปทา. แก้ว่า ทรงถือเอากามสุขัลลิถานุโยค เพื่อแสดงแก่เหล่าชน
ผู้บริโภคกามก่อน ทรงถือเอาอัตตกิลมถานุโยค เพื่อแสดงแก่เหล่าชนผู้
อาศัยตบะ ทรงถือเอามัชฌิมาปฏิปทา เพื่อแสดงเรื่องที่หาชราความทรุด-
โทรมมิได้ 3 ประการถามว่า ในการแสดงข้อปฏิบัติเหล่านั้น ได้ประโยชน์
อะไร. แก้ว่า บรรดาข้อปฏิบัติเหล่านี้ พระตถาคตทรงละส่วนสุด 2 อย่าง
แล้วทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณด้วยมัชฌิมาปฏิปทา ผู้บริโภคกาม
ทั้งหลาย พระองค์ก็มิได้ทรงตำหนิ มิได้ทรงสรรเสริญไปทั้งหมด แม้ผู้
อาศัยตบะทั้งหลาย พระองค์ก็มิได้ทรงตำหนิ มิได้ทรงสรรเสริญไปทุกคน
ทรงตำหนิเฉพาะผู้ที่ควรตำหนิ ทรงสรรเสริญผู้ที่ควรสรรเสริญ พึงทราบ
ว่า ประโยชน์ในการแสดงข้อปฏิบัติเหล่านี้ ก็เพื่อประกาศเนื้อความนี้
ด้วยประการฉะนี้. บัดนี้ เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสพระ-
พุทธพจน์ว่า ตโย โขเม คามณิ กามโภคิโน ดังนี้เป็นต้น.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สหเสน แปลว่า ด้วยการกระทำ
อย่างผลุนผลัน. บทว่า น สํวิภชติ ความว่า ไม่แจกจ่ายแก่มิตรสหาย
ที่เคยเห็นเคยคบกัน. บทว่า น ปุญฺญานิ กโรติ ความว่า ไม่ทำบุญ
ซึ่งเป็นปัจจัยแก่ภพภายหน้า. บทว่า ธมฺมาธมฺเมน แปลว่า โดยชอบ
ธรรม และโดยไม่ชอบธรรม. บทว่า ฐาเนหิ ได้แก่โดยเหตุทั้งหลาย.
บทว่า สจฺฉิกโรติ ความว่า ผู้มีตบะ เมื่อทำตัวให้ร้อนรนกระวนกระวาย
จะทำให้แจ้งซึ่งอุตตริมนุสสธรรมได้อย่างไร. ธรรมราศี กองธรรม 3 อย่าง
ชื่อว่าอันบุคคลพึงเห็นเอง ด้วยอำนาจความเพียรที่ประกอบด้วยองค์ 4
และด้วยอำนาจธุดงค์. ในบทว่า นิชฺชรา นี้ ท่านเรียกมรรคบางอย่างว่า
ติสฺโส นิชฺชรา เพราะกิเลสทั้งสามหาชราทรุดโทรมมิได้.
จบ อรรถกถาราสิยสูตรที่ 12

13. ปาฏลิยสูตร



ว่าด้วยทรงรู้จักมายา



[649] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อุตตรนิคม
แห่งชาวโกฬิยะในแคว้นโกฬิยะ ครั้งนั้นแล นายบ้านนามว่าปาฏลิยะ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า
ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้สดับมาว่า พระสมณโคดมทรง
รู้จักมายา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดม
ทรงรู้จักมายา ดังนี้ ชนเหล่านั้นเป็นอันกล่าวตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระ-